🤖 𝗔𝗜 เล่นเพลงได้แม่น...แต่เข้าใจ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ไหม❓
- Dr.Kasem THipayametrakul
- 2 days ago
- 2 min read

ความแม่นยำไม่ใช่ทุกอย่างของดนตรี 𝗔𝗜 สมัยใหม่สามารถเล่นเพลงได้ตรงจังหวะระดับ 𝗺𝗶𝗹𝗹𝗶𝘀𝗲𝗰𝗼𝗻𝗱 อ่านโน้ตเร็วกว่าเรา จำ 𝗽𝗮𝘁𝘁𝗲𝗿𝗻 ได้ไม่มีผิด รักษา 𝘁𝗲𝗺𝗽𝗼 ได้ยาวเป็นชั่วโมงโดยไม่มี 𝗳𝗮𝘁𝗶𝗴𝘂𝗲 แต่คำถามสำคัญคือ มันเข้าใจ “𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲” หรือไม่? เพราะ “𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲” ไม่ใช่แค่ตรงจังหวะ แต่มันคือ การเลื่อนนิดหนึ่ง, การเว้นนิดหนึ่ง, การเน้นที่ไม่เท่ากัน เพื่อให้คนขยับตัวตามได้โดยไม่รู้ตัว 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 จึงไม่ใช่เรื่องของเวลา...แต่คือเรื่องของ ภายในมนุษย์
คำถาม: ถ้าคุณฟังเสียงที่ตรง 𝟭𝟬𝟬% แต่ไม่รู้สึกอยากขยับ คุณจะเรียกมันว่า “ดนตรี” ได้หรือไม่?
𝟭. 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นจากความ “ไม่สมบูรณ์แบบ”
𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 เป็นสิ่งที่ทำให้ดนตรีมีชีวิตชีวาและทำให้คนขยับตามได้โดยไม่รู้ตัว แต่มันเกิดขึ้นจากความไม่สมบูรณ์แบบ จากการที่นักดนตรีไม่ได้เล่นอย่างสมบูรณ์แบบตามทฤษฎี แต่กลับเล่นตาม “#ความรู้สึก” และ “#จังหวะที่มีชีวิต” ที่สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น เมื่อเล่นให้ไม่แม่นเป๊ะ เช่น การเล่นที่เลื่อนไปข้างหลังนิดนึง (𝗹𝗮𝘆 𝗯𝗮𝗰𝗸) หรือการขยับไปข้างหน้า (𝗽𝘂𝘀𝗵) ในการเล่นบางจังหวะ เพื่อสร้างความตึงเครียดหรือการกระตุ้นบางอย่างในเพลง นี่คือการเล่นที่ “#เน้นความรู้สึก” มากกว่าความแม่นยำทางเทคนิค ซึ่งเป็นสิ่งที่ 𝗔𝗜 ยังทำไม่ได้อย่างแท้จริง
𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ของ 𝗝𝗮𝗺𝗲𝘀 𝗕𝗿𝗼𝘄𝗻 หรือ 𝗝 𝗗𝗶𝗹𝗹𝗮 คือลายเซ็นของ “𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻 𝗶𝗺𝗽𝗲𝗿𝗳𝗲𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻” ที่ทำให้ดนตรีของพวกเขามีเอกลักษณ์และน่าติดตาม เป็นดนตรีที่มี ความรู้สึก มากกว่าความสมบูรณ์แบบของเครื่องจักร
𝗗𝗮𝗻𝗶𝗲𝗹 𝗟𝗲𝘃𝗶𝘁𝗶𝗻 นักวิจัยด้านดนตรีและประสาทวิทยาในหนังสือ 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗜𝘀 𝗬𝗼𝘂𝗿 𝗕𝗿𝗮𝗶𝗻 𝗼𝗻 𝗠𝘂𝘀𝗶𝗰 อธิบายว่า ระบบประสาทมนุษย์ตอบสนองต่อ 𝗿𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺 ที่มีความคลาดเล็กน้อยมากกว่าที่เป็น 𝗹𝗼𝗼𝗽 สมบูรณ์แบบ การที่มีจังหวะที่เลื่อนหรือคลาดเคลื่อนนิดหน่อยในเพลงทำให้สมองของเรารู้สึกถึง ความมีชีวิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ดนตรีมีพลังและทำให้ผู้ฟังสามารถขยับตามได้
***อ้างอิง
๐ 𝗖𝗵𝗮𝗿𝗻𝗮𝘀, 𝗗. (𝟮𝟬𝟮𝟮). 𝗗𝗶𝗹𝗹𝗮 𝘁𝗶𝗺𝗲: 𝗧𝗵𝗲 𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝗮𝗳𝘁𝗲𝗿𝗹𝗶𝗳𝗲 𝗼𝗳 𝗝 𝗗𝗶𝗹𝗹𝗮, 𝘁𝗵𝗲 𝗵𝗶𝗽-𝗵𝗼𝗽 𝗽𝗿𝗼𝗱𝘂𝗰𝗲𝗿 𝘄𝗵𝗼 𝗿𝗲𝗶𝗻𝘃𝗲𝗻𝘁𝗲𝗱 𝗿𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺. 𝗠𝗖𝗗.
๐ 𝗩𝗶𝗻𝗰𝗲𝗻𝘁, 𝗥. (𝟭𝟵𝟵𝟲). 𝗙𝘂𝗻𝗸: 𝗧𝗵𝗲 𝗺𝘂𝘀𝗶𝗰, 𝘁𝗵𝗲 𝗽𝗲𝗼𝗽𝗹𝗲, 𝗮𝗻𝗱 𝘁𝗵𝗲 𝗿𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺 𝗼𝗳 𝘁𝗵𝗲 𝗼𝗻𝗲. 𝗦𝘁. 𝗠𝗮𝗿𝘁𝗶𝗻’𝘀 𝗚𝗿𝗶𝗳𝗳𝗶𝗻.
๐ 𝗟𝗲𝘃𝗶𝘁𝗶𝗻, 𝗗. 𝗝. (𝟮𝟬𝟬𝟲). 𝗧𝗵𝗶𝘀 𝗶𝘀 𝘆𝗼𝘂𝗿 𝗯𝗿𝗮𝗶𝗻 𝗼𝗻 𝗺𝘂𝘀𝗶𝗰: 𝗧𝗵𝗲 𝘀𝗰𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲 𝗼𝗳 𝗮 𝗵𝘂𝗺𝗮𝗻 𝗼𝗯𝘀𝗲𝘀𝘀𝗶𝗼𝗻. 𝗗𝘂𝘁𝘁𝗼𝗻/𝗣𝗲𝗻𝗴𝘂𝗶𝗻.
𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ในความหมายนี้ไม่ได้หมายถึงการตรงจังหวะที่สมบูรณ์แบบในเชิงคณิตศาสตร์ แต่หมายถึงการที่ผู้เล่นดนตรีสร้าง “ความคลาดเคลื่อน” อย่างตั้งใจ ซึ่งมีผลให้เพลงฟังดูมีพลังและมีความเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับการที่มนุษย์ไม่ได้เคลื่อนไหวในแบบที่เหมือนกันทุกครั้ง แต่มีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์และอารมณ์ขณะนั้นๆ ในการเล่นดนตรี 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่จังหวะที่สมบูรณ์แบบจากเครื่องจักร แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจาก การสื่อสารระหว่างคน โดยการให้ความสำคัญกับ "#การตอบสนอง" และ "#การให้และรับ" ภายในวงดนตรี ซึ่งจะสร้างลักษณะการเล่นที่น่าสนใจและน่าติดตามมากกว่าการเล่นที่สมบูรณ์แบบทุกครั้งไป
คำถามคือ: ถ้า 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 เกิดจากความไม่เท่ากัน แล้วระบบที่เล่นทุกอย่างให้เท่ากัน เช่น 𝗔𝗜 ที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด จะสามารถสร้าง “𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲” ที่มีชีวิตได้หรือไม่? เพราะแม้ 𝗔𝗜 จะสามารถเล่นได้ตามมาตรฐานที่แม่นยำและมีจังหวะที่ไม่มีการคลาดเคลื่อน แต่ ความคาดเดาไม่ได้ และ ความไม่สมบูรณ์แบบ ที่เกิดขึ้นจากการมีชีวิตของมนุษย์ คือสิ่งที่ทำให้ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเลียนแบบได้อย่างสมบูรณ์จากเทคโนโลยี.
มนุษย์ไม่ได้แค่เล่นให้ตรงตามจังหวะ แต่ยังทำให้จังหวะนั้น “รู้สึก” โดยการ ปรับตัว ขึ้นลง เลื่อนเล็กน้อยตามอารมณ์, บริบท หรือการฟังวงรอบข้าง.
𝟮. ความแม่นของ 𝗔𝗜 = แม่นทางคณิตศาสตร์ ไม่ใช่แม่นทางอารมณ์
𝗔𝗜 ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำสิ่งต่างๆ ให้แม่นยำตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เช่น การคำนวณจังหวะหรือสร้าง 𝗽𝗮𝘁𝘁𝗲𝗿𝗻 ที่สมบูรณ์แบบตามลำดับข้อมูลที่ป้อนเข้าไป 𝗔𝗜 เช่น 𝗚𝗿𝗼𝗼𝗩𝗔𝗘-𝗡𝗲𝘁 หรือ 𝗚𝗼𝗼𝗴𝗹𝗲 𝗠𝗮𝗴𝗲𝗻𝘁𝗮’𝘀 𝗗𝗿𝘂𝗺𝗯𝗼𝘁 สามารถสร้างจังหวะที่หลากหลาย โดยไม่ผิดพลาดในเรื่องของ 𝘁𝗶𝗺𝗶𝗻𝗴 หรือโน้ตที่ซ้ำกัน แต่มันไม่สามารถเข้าใจ “บริบท” ของเพลงได้อย่างที่มนุษย์ทำ
ในดนตรีมนุษย์ไม่เพียงแค่ตีจังหวะตามโน้ตที่อยู่ในเพลง แต่ยังต้องคำนึงถึง "อารมณ์" ของเพลง เช่น เพลงนี้ควรให้ความรู้สึกหนักหรือเบา, เราควรให้ความรู้สึกดึงหรือผลักในจังหวะนั้น, หรือแม้แต่การหยุดเว้นบางจังหวะเพื่อให้เพลงมีความลึกและการหายใจที่สัมพันธ์กันระหว่างผู้เล่นในวง สิ่งเหล่านี้คือ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ที่ไม่สามารถจับหรือสร้างขึ้นได้โดย 𝗔𝗜 ในตอนนี้
บริบทและการฟังวงรอบข้าง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 เกิดขึ้น เพราะมันเป็นการสื่อสารระหว่างนักดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับเสียงของเครื่องดนตรีอื่น ๆ หรือการสร้างจังหวะที่เคลื่อนไหวตามการตอบสนองของสมาชิกในวง
คำถาม: 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ที่ดีต้องอิงกับบริบทและการฟังวงรอบข้าง 𝗔𝗜 ฟังเพื่อนไหวหรือยัง?
ถึงแม้ว่า 𝗔𝗜 จะสามารถเล่นตามจังหวะที่แม่นยำและสามารถทำจังหวะซ้ำหลายๆ รูปแบบได้ แต่สิ่งที่มันขาดไปคือ การฟังและปรับตัว ตามการเคลื่อนไหวของวงดนตรีรอบข้าง
ในการสร้าง 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ที่ดีนั้น, นักดนตรีต้องคำนึงถึงการ สื่อสารและการปรับตัว ตามเพื่อนร่วมวง ซึ่งไม่ใช่แค่การเล่นตามโน้ตหรือจังหวะที่มีในสมอง แต่เป็นการตอบสนองต่อ การเคลื่อนไหวของผู้เล่นคนอื่น เช่น การเว้นจังหวะ, การเล่นเร็วหรือช้า, การปรับน้ำหนักของเสียงในจังหวะนั้น ซึ่ง 𝗔𝗜 ยังคงขาดความสามารถในการฟังและตอบสนองแบบนี้
𝗔𝗜 ในปัจจุบันยังไม่ได้ถูกออกแบบให้สามารถ “ฟัง” หรือ “รับรู้” สิ่งที่เกิดขึ้นในวงดนตรีและปรับการเล่นของมันให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ การที่ 𝗔𝗜 เล่นตามคณิตศาสตร์หรือโปรแกรมไม่ได้หมายความว่าเพลงนั้นจะมี 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 หรือจะทำให้คนขยับตามได้อย่างธรรมชาติ เพราะมันขาดความสามารถในการ ประมวลผลอารมณ์ ที่เกิดจากการมีชีวิตในดนตรีร่วมกับผู้อื่น
𝟯. 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ไม่ใช่แค่ 𝗿𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺 แต่คือสัมพันธภาพ
𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของจังหวะที่ถูกต้องตามที่เห็นในโน้ตเพลงเท่านั้น แต่มันคือ สัมพันธภาพ ที่เกิดขึ้นระหว่างนักดนตรีในวงดนตรี ขณะที่พวกเขาฟังและตอบสนองต่อกัน นี่คือสิ่งที่ทำให้ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 เกิดขึ้นในระดับที่ลึกซึ้งและมีชีวิตชีวา
ยกตัวอย่างเช่นใน 𝗕𝗶𝗹𝗹 𝗘𝘃𝗮𝗻𝘀 𝗧𝗿𝗶𝗼 ซึ่งมือเบส, มือเปียโน, และมือกลองต่างมีการสื่อสารกันผ่านเสียงและจังหวะ พวกเขาไม่ได้เล่นเพียงแค่ตามโน้ตหรือจังหวะที่กำหนด แต่พวกเขาฟังกัน และปรับการเล่นของตนให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของคนอื่นๆ ในวง กระบวนการนี้ทำให้เกิดการ 𝗱𝘆𝗻𝗮𝗺𝗶𝗰 𝗶𝗻𝘁𝗲𝗿𝗮𝗰𝘁𝗶𝗼𝗻 ที่ไม่สามารถคำนวณได้ล่วงหน้า มันเกิดจาก ความรู้สึก ที่ทุกคนมีร่วมกันในขณะนั้น
แต่สำหรับ 𝗔𝗜, มันถูกออกแบบมาเพื่อทำงานแบบ “ปิด” ในตัวเอง ซึ่งหมายความว่ามันไม่สามารถ ฟัง หรือ ตอบสนอง ต่อผู้อื่นในวงได้เหมือนที่มนุษย์ทำ 𝗔𝗜 อาจจะเล่นตามจังหวะที่แม่นยำได้ แต่มันขาดความสามารถในการรับรู้และปรับตัวตามการเคลื่อนไหวของวงดนตรี มัน ไม่สามารถรู้สึกได้ว่าควรจะรอหรือโยนจังหวะให้เพื่อนในวงรับได้
คำถาม: 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ที่ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย จะเป็น 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ได้จริงหรือ?
คำถามนี้ท้าทายว่า 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 จะสามารถเกิดขึ้นได้ไหมหากไม่มีการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น คำตอบคือ ไม่. เพราะ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 เป็นสิ่งที่เกิดจาก การร่วมกัน ไม่ใช่แค่การเล่นเดี่ยวๆ หรือทำตามจังหวะที่ถูกต้องทางคณิตศาสตร์ แต่เป็นการฟังกันและตอบสนองต่อการเล่นของคนอื่นๆ ในวง
หากไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ที่แท้จริงอาจจะไม่เกิดขึ้นในความหมายที่ลึกซึ้ง เพราะมันขาดความ 𝗱𝘆𝗻𝗮𝗺𝗶𝗰 หรือการตอบสนองที่เกิดขึ้นจากการร่วมมือระหว่างนักดนตรี การทำให้คนขยับตามและรู้สึกถึงจังหวะอย่างเป็นธรรมชาติในลักษณะนี้ต้องการการมีปฏิสัมพันธ์ที่สร้างความรู้สึกขึ้นมาในขณะที่เล่นร่วมกับคนอื่น ๆ ในวง
𝟰. แต่ 𝗔𝗜 ก็ทำให้เราตั้งคำถามใหม่: เราฝึกเพื่อให้เหมือน 𝗔𝗜 หรือฝึกเพื่อให้เป็นมนุษย์?
𝗔𝗜 สะท้อนให้เรามองเห็นว่า ความแม่นยำ เพียงอย่างเดียวไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในดนตรีได้ การที่เราฝึกให้ "#ตีตรง" ทุกครั้งอาจทำให้เราถูกต้องตามเทคนิค แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของดนตรี 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 คือการตอบสนองอย่างมีชีวิตชีวา ผ่านความรู้สึก ของการเล่นร่วมกับคนอื่น นั่นคือเหตุผลที่การเรียนรู้ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ไม่ใช่แค่การเรียนรู้การตีโน้ตตาม 𝗺𝗲𝘁𝗿𝗼𝗻𝗼𝗺𝗲 หรือการเล่นให้ถูกต้องตามลำดับ แต่คือการเรียนรู้การ ฟัง และ ตอบสนอง กับผู้เล่นคนอื่นในวง
การฝึกการเล่นกับวงดนตรีนั้นไม่เหมือนกับการฝึกในห้องซ้อมเดี่ยว มันต้องการการเข้าใจบริบททางอารมณ์ การเล่นกับความ ไม่สมบูรณ์แบบ และการรู้จัก เว้น หรือ รอ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ในจังหวะและเสียงที่ มีชีวิต สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการใช้คำสั่งที่แม่นยำแต่เกิดจากการเล่นจริง การปรับจังหวะให้เหมาะสมกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
คำถาม: วันนี้คุณฝึกให้ตีตรง หรือฝึกให้คนขยับได้โดยไม่รู้ตัว?
นี่คือคำถามสำคัญที่ท้าทายการฝึกฝนของเราทุกคน ในการฝึกซ้อมดนตรีเราอาจจะตั้งเป้าให้ แม่นยำ แต่หากเราไม่มีการฝึกให้คนฟังและขยับไปกับการเคลื่อนไหวของเสียงและจังหวะ การฝึกฝนของเราจะไม่สามารถสร้าง 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ที่แท้จริงได้ เพราะ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างนักดนตรี และการฝึกที่ดีที่สุดคือการฝึกที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกได้ ไม่ใช่แค่ฟังแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย
𝗔𝗜 อาจสามารถตีโน้ตได้เร็ว ตรง และซับซ้อนมากกว่าเราในด้านเทคนิค แต่ 𝗴𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ยังคงเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นระหว่างคนกับคน มากกว่าแค่การประมวลผลข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ 𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲 ต้องการสิ่งที่ 𝗔𝗜 ยังทำไม่ได้ เจตนา, ความไม่สมบูรณ์แบบ และ การอยู่ร่วมกับความคลาดเคลื่อนที่มีมนุษยธรรม ที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวในดนตรีมีชีวิตและความรู้สึก นั่นคือสิ่งที่ทำให้ดนตรี “#มีมนุษย์” อยู่ในนั้น
คำถามสุดท้าย: ในโลกที่เครื่องจักรสามารถทำได้แม่นยำที่สุดแล้ว, เสียงของคุณ...ยังจำเป็นอยู่ไหม?
นี่คือคำถามที่ทำให้เราไตร่ตรองถึงความหมายของการเป็นมนุษย์ในดนตรี เสียงของเราคือสิ่งที่สามารถสร้างการเชื่อมโยงและความหมายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่สามารถถูกแทนที่ด้วยความแม่นยำของเครื่องจักรได้ มันคือการสร้าง ความรู้สึก ที่เครื่องจักรไม่สามารถให้ได้.
Comments