top of page
Search

เพราะเรียนไม่เก่ง จึงเลือกเล่นวงโยฯ เหตุผลของใครหลายๆคน ⁉️



 วงโยธวาทิตกับเส้นทางของนักเรียนที่ "#เรียนไม่เก่ง"



ในสังคมไทยและอีกหลายประเทศ #วงโยธวาทิต (𝗠𝗮𝗿𝗰𝗵𝗶𝗻𝗴 𝗕𝗮𝗻𝗱) เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย นักเรียนที่เข้าร่วมวงโยธวาทิตมีหลายเหตุผล บางคนมีใจรักในดนตรีตั้งแต่แรก บางคนถูกชักชวนจากเพื่อน หรือบางคนอยากเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ยิ่งใหญ่ แต่หนึ่งในเหตุผลที่ได้ยินบ่อย ๆ คือ "#เพราะเรียนไม่เก่ง" จึงเลือกเข้าวงโยฯ คำถามที่น่าสนใจคือ เหตุผลนี้จริงแท้แค่ไหน? และมันสะท้อนอะไรเกี่ยวกับระบบการศึกษาและตัวนักเรียนเอง?







ในห้องเรียนแบบดั้งเดิม นักเรียนมักถูกประเมินจากผลสอบและคะแนนในวิชาการหลัก เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ หากนักเรียนคนใดมีผลการเรียนต่ำ อาจรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถหรือคุณค่า แต่สำหรับวงโยธวาทิต สิ่งที่สำคัญไม่ใช่คะแนนสอบ แต่เป็นความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรี การร่วมมือกันเป็นทีม และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถวัดได้ด้วยการสอบข้อเขียน



บางครั้งเด็กที่เรียนไม่เก่งอาจมีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างจากเด็กที่เก่งด้านวิชาการ พวกเขาอาจเรียนรู้ผ่านการลงมือทำและประสบการณ์จริงมากกว่าการอ่านตำราเรียน วงโยฯ เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้ในรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง





เด็กหลายคนพบว่าตัวเองมีศักยภาพในการเล่นดนตรี พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะและฝึกฝนจนเก่งขึ้นได้ วงโยฯ เป็นพื้นที่ที่มอบโอกาสให้พวกเขาสร้างความสำเร็จที่จับต้องได้ เช่น ได้รับรางวัลจากการแข่งขัน ได้รับคำชื่นชมจากครูและเพื่อน ๆ หรือแม้กระทั่งมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาผ่านการเล่นดนตรี



การฝึกซ้อมอย่างหนักและการร่วมมือกันเป็นทีมช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความมุ่งมั่นและความอดทน สิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่สามารถนำไปใช้ได้ในอนาคตไม่ว่าจะในชีวิตส่วนตัวหรือการทำงาน





เด็กบางคนรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับระบบการศึกษาที่เน้นการสอบและการท่องจำ บางคนอาจมีพรสวรรค์ด้านศิลปะ ดนตรี หรือการเคลื่อนไหวมากกว่าด้านวิชาการ การเข้าวงโยธวาทิตจึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีที่ยืนในโรงเรียน ได้รับการยอมรับ และไม่ถูกตัดสินจากแค่ผลการเรียนในห้องเรียน



𝟮. #วงโยธวาทิต: พื้นที่ของความสามารถ หรือที่หลบภัย





วงโยธวาทิตไม่ใช่แค่กิจกรรมเสริม แต่เป็นพื้นที่ที่ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ค้นพบศักยภาพของตัวเอง ต้องใช้ทักษะหลายด้าน เช่น ความสามารถทางดนตรี ความแข็งแกร่งทางร่างกาย ความอดทน วินัย และการทำงานเป็นทีม





มีหลายคนที่ใช้ประสบการณ์จากวงโยธวาทิตเป็นสะพานไปสู่อาชีพที่หลากหลาย เช่น นักดนตรีอาชีพ ทหารที่เล่นดนตรีในกองดุริยางค์ ครูสอนดนตรี หรือแม้แต่ใช้ทักษะความเป็นผู้นำที่ได้จากการเล่นวงโยฯ ไปต่อยอดในอาชีพอื่น ๆ



𝟮.𝟯 #หลบภัย หรือเปลี่ยนวิถีชีวิต 



บางคนอาจมองว่าวงโยฯ เป็นที่หลบภัยสำหรับเด็กที่เรียนไม่เก่ง แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันคือพื้นที่ที่ช่วยเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขา หลายคนที่เคยถูกมองว่า "#เรียนไม่เก่ง" สามารถประสบความสำเร็จได้ผ่านการเล่นดนตรี และบางคนก็ค้นพบตัวเองจากการอยู่ในวงโยฯ





  ทำไมระบบการศึกษาถึงทำให้เด็กบางคนรู้สึกว่าตัวเอง "#ไม่เก่ง" เพียงเพราะเรียนวิชาหลักไม่ดี?



  ความสามารถที่แท้จริงของเด็กวัดจากผลการเรียน หรือจากสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง?



  หากวงโยฯ สามารถสร้างคุณค่าให้กับเด็กที่เรียนไม่เก่ง ทำไมโรงเรียนถึงไม่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมเช่นนี้เท่ากับวิชาหลัก?



  นักเรียนที่เรียนไม่เก่งสามารถประสบความสำเร็จได้ไหม ถ้าพวกเขาได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเอง?



  การเรียนไม่เก่งหมายความว่าคุณไม่มีความสามารถจริงหรือแค่คุณยังไม่ได้ค้นพบจุดแข็งของตัวเอง?





สุดท้ายแล้ว การเข้าวงโยธวาทิตไม่ใช่เพียงเพราะเด็ก "#เรียนไม่เก่ง" แต่มันคือพื้นที่ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถแสดงศักยภาพและค้นพบคุณค่าในตัวเอง ระบบการศึกษาควรมีพื้นที่สำหรับเด็กที่มีความสามารถแตกต่างกัน ไม่ใช่เพียงแค่การเรียนในห้องเรียนเท่านั้น





การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนั่งอ่านหนังสือหรือการทำข้อสอบ ความสามารถทางดนตรี ศิลปะ กีฬา และการทำงานเป็นทีม เป็นทักษะที่มีคุณค่าเช่นเดียวกัน คนที่เรียนไม่เก่งในโรงเรียน อาจเป็นอัจฉริยะในเรื่องอื่น ๆ ก็ได้ วงโยฯ เป็นตัวอย่างของพื้นที่ที่ช่วยให้เด็ก ๆ เหล่านี้ได้เปล่งประกาย



 แล้วคุณล่ะ คิดอย่างไร



 ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยรู้สึกว่าตัวเอง "#ไม่เก่ง" คุณคิดว่ามันเป็นเพราะอะไร?



คุณคิดว่าวงโยธวาทิตควรถูกมองว่าเป็นแค่กิจกรรมทางเลือก หรือเป็นสิ่งที่ควรได้รับการสนับสนุนในโรงเรียนมากกว่านี้?



ถ้าไม่มีวงโยธวาทิต หรือกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กค้นพบความสามารถของตัวเอง ระบบการศึกษาจะสามารถช่วยให้เด็กทุกคนเติบโตไปตามศักยภาพของตัวเองได้จริงหรือไม่?



บางครั้ง ความสามารถของคนเราไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่เราแค่ต้องค้นหาสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด แล้วคุณล่ะ ได้ค้นพบหรือยังว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด



 
 
 

Comments


bottom of page