สัญชาตญาณหรือทฤษฎี? สิ่งที่นักกลองต้องมีทั้งสองอย่าง

สำหรับนักกลอง การเล่นดนตรีไม่ได้มีแค่การตีตามจังหวะเท่านั้น แต่ยังเป็นการผสมผสานระหว่าง สัญชาตญาณ และ ทฤษฎี เพื่อสร้างเสียงที่สมบูรณ์แบบและเข้าถึงจิตวิญญาณของดนตรี ทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ต้องเดินไปพร้อมกัน

𝟭. สัญชาตญาณ: จิตวิญญาณของการเล่นดนตรี

สัญชาตญาณ คือความสามารถในการรู้สึกและตอบสนองต่อดนตรีโดยไม่ต้องคิดมาก มันมาจากประสบการณ์และความเข้าใจที่ฝังลึกในใจ

การด้นสด (𝗜𝗺𝗽𝗿𝗼𝘃𝗶𝘀𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻): นักกลองที่ดีสามารถปรับเปลี่ยนจังหวะและการตีให้เหมาะกับสถานการณ์ได้โดยไม่ต้องยึดติดกับโครงสร้าง

  การอ่านอารมณ์เพลง: สัญชาตญาณช่วยให้นักกลองรู้ว่าเมื่อไรควรตีแรงหรือเบา เพิ่มหรือลดพลังในจังหวะ

  การเชื่อมโยงกับวง: มันคือการฟังและรู้สึกไปพร้อมกับสมาชิกคนอื่นในวง เพื่อให้การเล่นของทุกคนเข้ากันอย่างลงตัว

𝟮. ทฤษฎี: พื้นฐานที่ไม่ควรมองข้าม

แม้สัญชาตญาณจะสำคัญ แต่ ทฤษฎีดนตรี คือเครื่องมือที่จะช่วยให้นักกลองสามารถพัฒนาฝีมือได้อย่างมีโครงสร้าง

พื้นฐานจังหวะ (𝗥𝘂𝗱𝗶𝗺𝗲𝗻𝘁𝘀): การฝึก 𝗥𝘂𝗱𝗶𝗺𝗲𝗻𝘁𝘀 เช่น 𝗣𝗮𝗿𝗮𝗱𝗶𝗱𝗱𝗹𝗲, 𝗙𝗹𝗮𝗺𝘀, และ 𝗥𝗼𝗹𝗹𝘀 คือสิ่งที่สร้างความแม่นยำในการตี

การอ่านโน้ตดนตรี (𝗦𝗵𝗲𝗲𝘁 𝗠𝘂𝘀𝗶𝗰): สำหรับนักกลองที่ทำงานในวงดนตรีหรืออัดเสียง การอ่านโน้ตช่วยให้การเล่นสอดคล้องกับเพลงมากขึ้น

การเข้าใจรูปแบบเพลง (𝗦𝗼𝗻𝗴 𝗦𝘁𝗿𝘂𝗰𝘁𝘂𝗿𝗲): การรู้ว่าเพลงมี 𝗩𝗲𝗿𝘀𝗲, 𝗖𝗵𝗼𝗿𝘂𝘀, 𝗕𝗿𝗶𝗱𝗴𝗲 หรือ 𝗢𝘂𝘁𝗿𝗼 ช่วยให้นักกลองวางไดนามิกได้อย่างเหมาะสม

𝟯. ทำไมต้องมีทั้งสองอย่าง?

การมีแค่ สัญชาตญาณ อาจทำให้การเล่นดูขาดความมั่นคงและขาดรายละเอียด ส่วนการยึดติดกับ ทฤษฎี มากเกินไป อาจทำให้การเล่นขาดอารมณ์และความเป็นธรรมชาติ

  สัญชาตญาณ เหมือนกับ อารมณ์ ที่ทำให้เพลงมีชีวิต

  ทฤษฎี เหมือนกับ เส้นทาง ที่ช่วยให้การเล่นไม่ออกนอกกรอบ

ทั้งสองอย่างทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง "ความสมดุล" ระหว่างความรู้และความรู้สึก

𝟰. วิธีพัฒนา "ทั้งสองอย่าง" สำหรับนักกลอง

  พัฒนาสัญชาตญาณ

  ฟังเพลงหลากหลายแนวเพื่อซึมซับจังหวะและอารมณ์

  เล่นดนตรีสดและลองด้นสดบ่อยๆ เพื่อฝึกการตอบสนอง

  ฝึกตีไปพร้อมกับเพลงที่ไม่มีไกด์ เช่น 𝗕𝗮𝗰𝗸𝗶𝗻𝗴 𝗧𝗿𝗮𝗰𝗸

  เรียนรู้ทฤษฎี

  ฝึกพื้นฐาน Rudiments ทุกวัน

  ศึกษาโครงสร้างเพลงในหลากหลายแนว

  ลองอ่านและเขียนโน้ตกลอง

𝟱. ตัวอย่างนักกลองที่รวมทั้งสองด้าน

  𝗕𝘂𝗱𝗱𝘆 𝗥𝗶𝗰𝗵: เล่นด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรง แต่ยังคงความแม่นยำในทุกจังหวะ

  𝗦𝘁𝗲𝘃𝗲 𝗚𝗮𝗱𝗱: ใช้เทคนิคเชิงทฤษฎีผสมผสานกับการตีที่เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

  𝗧𝗿𝗮𝘃𝗶𝘀 𝗕𝗮𝗿𝗸𝗲𝗿: สร้างสรรค์เสียงใหม่ในเพลงพังก์โดยใช้สัญชาตญาณและพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

𝟲. สรุป: สองสิ่งที่ขาดกันไม่ได้

สัญชาตญาณและทฤษฎี คือสองด้านที่เสริมกันเพื่อให้การเล่นดนตรีของนักกลองสมบูรณ์ที่สุด การเรียนรู้ทฤษฎีคือการสร้างพื้นฐานที่มั่นคง และสัญชาตญาณคือการใส่จิตวิญญาณลงไปในเสียงกลอง

"จังหวะที่สมบูรณ์แบบไม่ได้มาจากแค่ไม้กลอง แต่มันมาจากสมองที่รู้ และหัวใจที่รู้สึก"