
การเป็นนักดนตรีไม่ใช่แค่เรื่องของเทคนิคหรือทักษะในการเล่นเครื่องดนตรีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตระหนักถึงคุณค่าในตัวเองและบทบาทที่เรามีต่อดนตรีและสังคมรอบตัวด้วย หลายครั้งที่นักดนตรีอาจรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งพอ หรือเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นจนสูญเสียความมั่นใจ แต่ความจริงแล้ว ทุกคนมีคุณค่าในแบบของตัวเอง และนี่คือสิ่งที่นักดนตรีทุกคนควรตระหนักและให้ความสำคัญ
นักดนตรีหลายคนอาจคิดว่าตัวเองไม่มีอิทธิพลต่อใคร เพราะอาจไม่ได้เป็นศิลปินชื่อดัง หรือไม่ได้มียอดวิวเป็นล้าน แต่ความจริงแล้ว ดนตรีสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนฟังได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะเล่นอยู่ในห้องซ้อม เล่นให้เพื่อนฟัง หรือเล่นอยู่บนเวทีใหญ่ ดนตรีที่คุณถ่ายทอดออกไป สามารถสร้างความสุข แรงบันดาลใจ หรือแม้แต่ช่วยเยียวยาใจใครบางคนได้
เพลงที่คุณเล่นอาจทำให้ใครบางคนมีพลังใจในวันที่เหนื่อยล้า
การแสดงสดของคุณอาจสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นอยากเริ่มเล่นดนตรี
ดนตรีของคุณอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของใครบางคน
ดังนั้น อย่าดูถูกคุณค่าของตัวเอง เพียงเพราะคิดว่าคุณยังไม่ดังหรือไม่เป็นที่รู้จัก เพราะดนตรีของคุณมีพลังมากกว่าที่คุณคิด
การเปรียบเทียบตัวเองกับนักดนตรีคนอื่นเป็นเรื่องธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อเราชื่นชมใครบางคนและอยากไปให้ถึงระดับนั้น แต่นักดนตรีหลายคนกลับใช้การเปรียบเทียบนี้เป็นข้ออ้างในการดูถูกตัวเอง
มองนักดนตรีที่เก่งกว่าเป็นแรงบันดาลใจ ไม่ใช่เป็นเหตุผลให้คุณรู้สึกด้อยค่า
โฟกัสที่การพัฒนาของตัวเอง แทนที่จะมัวแต่เสียใจว่าทำไมยังเล่นไม่ได้แบบคนอื่น
นักดนตรีแต่ละคนมีเส้นทางของตัวเอง ไม่มีใครที่เริ่มต้นมาแล้วเก่งเลย ทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาที่ต้องฝึกหนักมาก่อน
การเปรียบเทียบที่ดีคือการใช้มันเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ ดูว่าเขาเก่งเพราะอะไร ฝึกยังไง แล้วนำมาพัฒนาตัวเอง แทนที่จะเอามากดดันตัวเองจนหมดกำลังใจ
บางคนเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่เด็กและพัฒนาเร็วมาก ในขณะที่บางคนเริ่มช้ากว่าแต่ก็สามารถเก่งขึ้นได้เช่นกัน ไม่มีเส้นทางเดียวสำหรับการเป็นนักดนตรี
มีศิลปินบางคนที่โด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อย
มีบางคนที่เริ่มต้นอาชีพดนตรีเมื่ออายุ 𝟯𝟬 หรือ 𝟰𝟬 ปี
บางคนอาจไม่ได้เป็นศิลปินดังระดับโลก แต่เป็นครูสอนดนตรีที่เปลี่ยนชีวิตนักเรียนมานับไม่ถ้วน
ทุกเส้นทางมีคุณค่า จงเคารพเส้นทางของตัวเอง และอย่ารู้สึกแย่เพียงเพราะมันไม่เหมือนกับของคนอื่น
𝟰. #ศิลปะไม่มีคำว่า “#ดีกว่า” หรือ “#แย่กว่า”
ดนตรีเป็นศิลปะ ซึ่งไม่มี "มาตรฐานเดียว" ว่าแบบไหนดีที่สุด หรือแบบไหนด้อยกว่า เพราะดนตรีเป็นเรื่องของอารมณ์ รสนิยม และประสบการณ์ของแต่ละคน
คุณอาจเล่นได้ไม่เร็วเท่าคนอื่น แต่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ลึกซึ้งกว่า
คุณอาจไม่ได้เป็นมือกลองที่มีเทคนิคแพรวพราว แต่เล่นได้แน่นและสนับสนุนวงได้ดี
คุณอาจไม่ได้แต่งเพลงซับซ้อน แต่เพลงของคุณตรงไปตรงมาและเข้าถึงใจคนฟัง
ดนตรีไม่มีถูกผิด และไม่มีใครที่เป็น "#นักดนตรีที่ดีที่สุด" เพราะทุกคนมีสไตล์ของตัวเอง
นอกจากฝีมือแล้ว คุณค่าของนักดนตรีอยู่ที่จิตใจและทัศนคติด้วย นักดนตรีที่ยอดเยี่ยมคือคนที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับคนรอบข้าง
ความตรงต่อเวลา – คนที่เล่นเก่งแต่ชอบมาสาย อาจไม่ถูกเลือกให้เล่นในวงที่ดี
ความถ่อมตัวและเปิดใจเรียนรู้ – ไม่มีใครชอบทำงานกับคนที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดเสมอ
การสนับสนุนเพื่อนร่วมวง – วงดนตรีที่ดีคือทีม ไม่ใช่การแข่งขันว่าใครเด่นกว่า
อย่าลืมว่า การเป็นนักดนตรีที่ดี ไม่ได้วัดแค่ฝีมือ แต่วัดจากนิสัยและทัศนคติของคุณด้วย
สุดท้ายแล้ว เหตุผลที่คุณเล่นดนตรีคืออะไร?
ถ้าเป็นเพราะคุณรักมัน ก็อย่าลืมความสุขนั้นไป
ถ้าเป็นเพราะคุณอยากให้คนอื่นมีความสุข ก็อย่ากังวลมากเกินไปว่าคุณต้องเก่งแค่ไหน
ถ้าเป็นเพราะคุณอยากเติบโต ก็จงฝึกฝนต่อไปโดยไม่ต้องเร่งตัวเอง
ดนตรีควรเป็นสิ่งที่เติมเต็ม ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกกดดันหรือไร้ค่า จงเล่นมันด้วยใจ สนุกไปกับมัน และภูมิใจในเส้นทางของตัวเอง
สุดท้ายนี้...
อย่าลืมว่าคุณค่าของคุณในฐานะนักดนตรีไม่ได้ถูกกำหนดโดยคำวิจารณ์ของใคร หรือยอดไลค์ ยอดวิว แต่มันอยู่ที่ ความสุขที่คุณได้รับจากดนตรี และความสุขที่คุณแบ่งปันให้กับผู้อื่น
Comments