การสร้างเอกลักษณ์บนกลองไม่ใช่แค่การตีกลองให้ได้เร็วหรือแม่นยำเท่านั้น แต่คือการใช้เทคนิคพื้นฐานที่เรียนรู้มาเพื่อสร้างสรรค์เสียงที่มีความเป็นตัวเอง ที่แสดงออกผ่านจังหวะและการเลือกเล่นในแบบที่ไม่ซ้ำใคร
วิธีการตีกรอบความคิดจากพื้นฐานไปสู่การสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองบนกลอง:
เริ่มต้นจากการเรียนรู้เทคนิคพื้นฐาน
การสร้างเอกลักษณ์บนกลองเริ่มต้นด้วยการฝึกทักษะพื้นฐานอย่างละเอียด การฝึก 𝗿𝘂𝗱𝗶𝗺𝗲𝗻𝘁𝘀, 𝘀𝘁𝗶𝗰𝗸 𝗰𝗼𝗻𝘁𝗿𝗼𝗹, และการจับจังหวะให้ถูกต้อง ทำให้เรามีความมั่นคงในการเล่นและสามารถเล่นได้ตามสไตล์ที่เราต้องการในอนาคต
𝗥𝘂𝗱𝗶𝗺𝗲𝗻𝘁𝘀 เช่น 𝗦𝗶𝗻𝗴𝗹𝗲 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲 𝗥𝗼𝗹𝗹, 𝗗𝗼𝘂𝗯𝗹𝗲 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲 𝗥𝗼𝗹𝗹, 𝗣𝗮𝗿𝗮𝗱𝗶𝗱𝗱𝗹𝗲 และ 𝗙𝗹𝗮𝗺𝘀 เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยสร้างความเร็ว ความแม่นยำ และการควบคุมไม้กลอง
การพัฒนาความสามารถในการแสดงออก
หลังจากฝึกเทคนิคพื้นฐานได้ดีแล้ว ค่อย ๆ ขยับไปสู่การพัฒนาความสามารถในการแสดงออกทางดนตรี การเล่นดนตรีไม่ใช่แค่การทำตามจังหวะ แต่คือการบอกเล่าเรื่องราวผ่านจังหวะและเสียง
การเล่นด้วยอารมณ์: ลองให้ความสำคัญกับการใช้ไดนามิก (ความดัง-เบา) และความเร็วในการเล่น เพราะมันช่วยแสดงความรู้สึกในเพลง
การเติมเต็มและการเว้นช่องว่าง: คิดถึงการเติมเต็มจังหวะด้วยฟิลล์หรือการเว้นช่องว่างในบางจังหวะเพื่อให้เพลงมีชีวิตชีวา
การผสมผสานแนวทางดนตรีต่าง ๆ
เพื่อสร้างเอกลักษณ์ คุณต้องมีความสามารถในการผสมผสานหลาย ๆ แนวดนตรีในการเล่นกลอง
การยืดหยุ่นทางจังหวะ: ลองฝึกหลาย ๆ รูปแบบ เช่น บลูส์, แจ๊ส, ร็อก, ฟังก์ และ แอฟริกันดรัม
การเข้าใจความแตกต่างของจังหวะในแต่ละแนวทางจะช่วยให้คุณสามารถเล่นได้หลากหลาย
การผสมเทคนิคต่าง ๆ: เช่น การนำ การตีด้วยข้อมือ มาผสมกับการเล่น 𝗛𝗶-𝗛𝗮𝘁 หรือ 𝗞𝗶𝗰𝗸 𝗗𝗿𝘂𝗺 เพื่อเพิ่มความซับซ้อนในเสียง
การพัฒนาความอิสระในการเล่น
การสร้างเอกลักษณ์ทางดนตรีมักมาจากการใช้จินตนาการและความอิสระในการเล่น
การฝึกเล่นแบบอิสระ: ฝึกเล่นโดยไม่ยึดติดกับโน้ตหรือรูปแบบที่กำหนดไว้ ลองตีกลองแบบฟรีสไตล์เพื่อดูว่าเสียงอะไรเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงจังหวะและไดนามิก
การใช้จังหวะที่ไม่สมบูรณ์: ลองตีกลองแบบที่ไม่ตรงกับจังหวะหลัก เช่น การใช้ ฟิลล์ ที่เบี่ยงเบนจากจังหวะหลักเล็กน้อย หรือการใช้ จังหวะคู่ขนาน (𝗣𝗼𝗹𝘆𝗿𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺𝘀)
การฟังและเรียนรู้จากนักดนตรีคนอื่น
การสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองไม่ได้หมายความว่าคุณต้องแยกตัวเองออกจากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
ฟังและศึกษาเพลงต่าง ๆ: ฟังมือกลองที่คุณชื่นชอบ และศึกษาว่าเขาสร้างเสียงและเอกลักษณ์อย่างไร
เรียนรู้จากการเล่นกับวงดนตรี: การร่วมงานกับนักดนตรีคนอื่นทำให้คุณสามารถเรียนรู้วิธีการแสดงออกที่หลากหลาย และอาจนำมาใช้ในการเล่นของตัวเอง
การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจังหวะและเสียง
การตีกรอบความคิดในการเล่นกลองคือการเข้าใจว่ากลองไม่ได้มีแค่เสียงที่เกิดจากการตีแต่ละจังหวะ แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว
การใช้จังหวะสร้างเรื่องราว: กลองสามารถเป็นเครื่องมือในการบอกเล่าเรื่องราวของเพลง โดยการตีกลองในช่วงเวลาที่ถูกต้องและในจังหวะที่เหมาะสมจะช่วยเสริมให้เพลงมีอารมณ์ที่เข้มข้นขึ้น
การสร้างลายเส้น (𝗚𝗿𝗼𝗼𝘃𝗲): พยายามที่จะสร้างลายเส้นของตัวเองที่มีเอกลักษณ์ แม้ว่าจะเป็นการเล่นในแนวทางที่เรียบง่าย แต่ความสามารถในการเติมเต็มและการเว้นจังหวะอย่างพอดีจะทำให้คุณมีสไตล์เฉพาะตัว
ยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน
การสร้างเอกลักษณ์ต้องมีการทดลองและผิดพลาด นักดนตรีที่มีเอกลักษณ์มักจะไม่กลัวที่จะลองผิดลองถูก
ไม่ต้องกังวลเรื่องความสมบูรณ์แบบ: มือกลองหลายคนสร้างเสียงที่มีเอกลักษณ์จากการเรียนรู้จากการผิดพลาด ลองผิดลองถูกแล้วจดจำสิ่งที่ดีที่สุดจากการทดลองนั้น
การหาจุดสมดุลระหว่างเทคนิคและความรู้สึก
เอกลักษณ์ของคุณจะไม่เกิดขึ้นหากคุณยึดติดกับเทคนิคเพียงอย่างเดียว
ผสมผสานเทคนิคและอารมณ์: การเล่นกลองที่มีเอกลักษณ์ไม่ใช่แค่การใช้เทคนิคขั้นสูง แต่คือการแสดงอารมณ์ผ่านการตีจังหวะและเสียง เช่น การเล่นกลองช้าและมีความหมายในช่วงที่อารมณ์เพลงต้องการความเรียบง่าย
***จำไว้ว่าดนตรีคือการแสดงออกที่ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ทุกครั้งที่คุณตี กลองคือเสียงที่สะท้อนตัวตนและความรู้สึกของคุณเอง อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูก เพราะบางครั้งความผิดพลาดก็เป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้ค้นพบเสียงที่ไม่เหมือนใคร สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสนุกกับการเล่นและการเติบโตทางดนตรีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ขอให้คุณค้นพบเสียงของตัวเองและสร้างเอกลักษณ์บนกลองที่เต็มไปด้วยความเป็นคุณครับ!
Comments