เบื้องหลังความแม่นยำ: การจับไม้กลองแบบไหนที่ใช่สำหรับนักกลอง?

การจับไม้กลองเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่นักกลองทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพราะการจับไม้กลองไม่เพียงส่งผลต่อเสียงที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นตัวช่วยในการลดการใช้แรงและเพิ่มความแม่นยำ

การจับไม้กลองที่เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นักกลองเล่นได้อย่างมั่นใจและยืดหยุ่น

มาดูกันครับ ว่ามีการจับแบบใดบ้าง และแต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร

𝟭. 𝗠𝗮𝘁𝗰𝗵𝗲𝗱 𝗚𝗿𝗶𝗽 – การจับแบบสมมาตร

การใช้งาน: วิธีนี้เป็นการจับที่ไม้กลองทั้งสองข้างจะจับไม้ในลักษณะเดียวกัน โดยนิ้วโป้งอยู่ด้านบน นิ้วอื่นอยู่ด้านล่าง มักนิยมในแนวเพลงร็อค ป๊อป และดนตรีสมัยใหม่ เนื่องจากช่วยเพิ่มแรงและการควบคุมการตีกลองอย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่น

ทำให้แรงในการตีทั้งสองข้างสมดุลกัน

ง่ายต่อการควบคุมทิศทางการตีและเสียง

เหมาะสำหรับ: นักกลองที่ต้องการเล่นแนวดนตรีที่ต้องใช้พลังเยอะ การจับแบบนี้เหมาะสำหรับกลองที่ต้องตีแรง เช่นกลองเบสและกลองสแนร์

𝟮. 𝗧𝗿𝗮𝗱𝗶𝘁𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗚𝗿𝗶𝗽 – การจับแบบดั้งเดิม

การใช้งาน: การจับแบบนี้เป็นการจับไม้แบบไม่สมมาตร มือซ้ายจะวางไม้กลองไว้ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ โดยนิ้วนางและนิ้วก้อยรองรับไม้ด้านล่าง นิยมในแนวดนตรีแจ๊สและคลาสสิก

จุดเด่น

ให้การควบคุมที่ละเอียดและช่วยสร้างเสียงที่นุ่มนวล

ทำให้การตีมีความละเอียดอ่อนและเหมาะกับการเล่นไดนามิก

เหมาะสำหรับ: นักกลองที่ต้องการการควบคุมที่ละเอียด เหมาะกับเพลงที่ต้องการเสียงนุ่ม เช่น แจ๊ส บลูส์ และการแสดงที่เน้นการสร้างอารมณ์

𝟯. 𝗙𝗿𝗲𝗻𝗰𝗵 𝗚𝗿𝗶𝗽 – การจับแบบฝรั่งเศส

การใช้งาน: เป็นการจับที่นิ้วโป้งชี้ขึ้นด้านบนและไม้กลองอยู่ในแนวตั้ง การจับนี้ใช้ข้อมือในการเคลื่อนไหว ช่วยให้นักกลองสามารถตีได้เร็วและลดการใช้แรงมากเกินไป

จุดเด่น

นิยมใช้ในการเล่นความเร็วสูง เช่นในเทคนิค 𝗦𝗶𝗻𝗴𝗹𝗲 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲 𝗥𝗼𝗹𝗹 หรือ 𝗗𝗼𝘂𝗯𝗹𝗲 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲 𝗥𝗼𝗹𝗹

ช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการใช้ข้อมือ

เหมาะสำหรับ: นักกลองที่ต้องการความเร็วสูง เช่นในการเล่นจังหวะที่ต้องการการตอบสนองที่เร็ว และการตีที่ต้องการเสียงที่เน้นความนุ่มนวล

𝟰. 𝗚𝗲𝗿𝗺𝗮𝗻 𝗚𝗿𝗶𝗽 – การจับแบบเยอรมัน

การใช้งาน: การจับแบบนี้จะคล้ายกับ 𝗠𝗮𝘁𝗰𝗵𝗲𝗱 𝗚𝗿𝗶𝗽 แต่ไม้กลองจะอยู่ในแนวราบกับพื้น ข้อมือจะยกขึ้นและใช้ข้อมือและแขนในการสร้างแรงในการตี

จุดเด่น

ช่วยสร้างเสียงที่หนักแน่นและมีพลัง

การใช้ข้อมือและแขนทำให้การตีเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการเล่นเสียงดัง

เหมาะสำหรับ: นักกลองที่ต้องการเสียงหนักแน่น เหมาะกับการแสดงสด หรือดนตรีแนวร็อคและเมทัล

𝟱. 𝗔𝗺𝗲𝗿𝗶𝗰𝗮𝗻 𝗚𝗿𝗶𝗽 – การจับแบบอเมริกัน

การใช้งาน: เป็นการผสมผสานระหว่าง 𝗙𝗿𝗲𝗻𝗰𝗵 𝗚𝗿𝗶𝗽 และ 𝗚𝗲𝗿𝗺𝗮𝗻 𝗚𝗿𝗶𝗽 ซึ่งนิ้วโป้งจะอยู่ในตำแหน่งเฉียง ๆ ทำให้นักกลองสามารถสลับระหว่างการใช้ข้อมือและแขนได้อย่างยืดหยุ่น

จุดเด่น

ให้ความสมดุลระหว่างการใช้ข้อมือและแขน สามารถใช้ได้ทั้งการตีที่ต้องการความเร็วและพลัง

การจับแบบนี้ช่วยให้นักกลองสามารถปรับการตีได้ทั้งแรงและเบาตามต้องการ

เหมาะสำหรับ: นักกลองที่เล่นเพลงหลากหลายแนว เพราะให้การควบคุมที่ยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการฝึกเทคนิคพื้นฐานและการเล่นดนตรีที่ต้องการไดนามิกหลากหลาย

การเลือกจับไม้กลองให้เหมาะกับแนวเพลงและสไตล์ของตนเองนั้นจะช่วยให้นักกลองเล่นได้ทั้งแม่นยำและมีประสิทธิภาพ การฝึกให้คล่องกับการจับไม้หลายแบบจะช่วยให้นักกลองสามารถปรับการจับตามสถานการณ์ได้ และจะช่วยให้การเล่นกลองมีความยืดหยุ่นและตอบสนองได้ดีในทุกจังหวะ