การใช้ 𝗕𝗼𝗱𝘆 𝗠𝗲𝗰𝗵𝗮𝗻𝗶𝗰𝘀 หรือกลไกการเคลื่อนไหวร่างกายในการตีกลอง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้มือกลองเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเหนื่อยล้า และลดโอกาสบาดเจ็บจากการเล่นดนตรีหนัก ๆ ต่อเนื่อง การควบคุมกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวร่างกายเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
เรามาดูเทคนิคสำคัญกันครับ
𝟭. ใช้แขนอย่างมีประสิทธิภาพ (𝗔𝗿𝗺 𝗠𝗼𝘃𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁)
การตีกลองที่ดีเริ่มจากการใช้กล้ามเนื้อแขนให้ถูกต้อง แทนที่จะใช้ข้อมือหรือนิ้วอย่างเดียว เพราะการใช้แขนจะช่วยลดแรงกระแทกและทำให้มือรู้สึกผ่อนคลาย โดยเฉพาะถ้าเป็นการตีที่ต้องการพลัง จะทำให้การเคลื่อนไหวลื่นไหลและสบายกว่า
𝟮. ข้อมือและนิ้ว ควบคุมการเล่นแบบแม่นยำ (𝗪𝗿𝗶𝘀𝘁 𝗮𝗻𝗱 𝗙𝗶𝗻𝗴𝗲𝗿 𝗧𝗲𝗰𝗵𝗻𝗶𝗾𝘂𝗲𝘀)
การควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยข้อมือและนิ้วสำคัญมากในการเล่นจังหวะที่ต้องการความเร็ว เทคนิคการหมุนข้อมือและงอนิ้วช่วยให้ควบคุมเสียงได้ดีขึ้น แถมยังช่วยให้การตีมีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย
𝟯. ท่าทางนั่งที่เหมาะสม (𝗣𝗼𝘀𝘁𝘂𝗿𝗲 𝗮𝗻𝗱 𝗕𝗮𝗹𝗮𝗻𝗰𝗲)
นั่งให้หลังตรงเสมอและบาลานซ์ (𝗕𝗮𝗹𝗮𝗻𝗰𝗲)น้ำหนักให้เท่ากัน ควรปรับเก้าอี้ให้สูงกว่าหัวเข่าเล็กน้อยเพื่อให้สามารถควบคุมขาได้ดี ท่าทางการนั่งที่ถูกต้องจะช่วยให้รู้สึกสบายในการเล่นยาวนาน และลดอาการปวดหลังจากการนั่งตีกลองนาน ๆ
𝟰. การใช้เท้าและข้อเท้าอย่างชาญฉลาด (𝗙𝗼𝗼𝘁 𝗮𝗻𝗱 𝗔𝗻𝗸𝗹𝗲 𝗠𝗼𝘃𝗲𝗺𝗲𝗻𝘁)
เล่นเบสดรัม (𝗯𝗮𝘀𝘀 𝗱𝗿𝘂𝗺)ด้วยเทคนิคจากข้อเท้า โดยเฉพาะสำหรับ 𝗗𝗼𝘂𝗯𝗹𝗲 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲 หรือการใช้เทคนิค 𝗛𝗲𝗲𝗹-𝗧𝗼𝗲 จะช่วยให้ควบคุมความเร็วได้มากขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงเยอะ ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังและทำให้เล่นได้อย่างคล่องแคล่ว
𝟱. เทคนิค 𝗠𝗼𝗲𝗹𝗹𝗲𝗿 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲: เพิ่มพลังให้การตี
𝗠𝗼𝗲𝗹𝗹𝗲𝗿 𝗦𝘁𝗿𝗼𝗸𝗲 เป็นเทคนิคที่ใช้การยกไหล่และข้อศอกสร้างแรงเหวี่ยง ช่วยเพิ่มพลังในการตีและลดการเกร็งของข้อมือ เทคนิคนี้ใช้ประโยชน์จากแรงเหวี่ยงของแขน ทำให้ตีได้แรงขึ้นและช่วยประหยัดพลังงานเมื่อต้องเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน
𝟲. ผ่อนคลายและหายใจให้เป็นจังหวะ (𝗥𝗲𝗹𝗮𝘅𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗮𝗻𝗱 𝗕𝗿𝗲𝗮𝘁𝗵𝗶𝗻𝗴)
การหายใจอย่างสม่ำเสมอช่วยให้การเล่นของเราราบรื่นขึ้นและผ่อนคลาย เป็นเทคนิคง่าย ๆ แต่ช่วยให้มือกลองมีสมาธิและรักษาจังหวะได้ดี ไม่ว่าจะเจอเพลงเร็วแค่ไหนก็ตาม
การควบคุม 𝗕𝗼𝗱𝘆 𝗠𝗲𝗰𝗵𝗮𝗻𝗶𝗰𝘀 อย่างมีประสิทธิภาพทำให้การเล่นกลองของเรามีพลังและแม่นยำโดยไม่เสียพลังไปกับการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปฝึกดูนะครับ แล้วจะเห็นว่าการเล่นกลองของคุณเปลี่ยนไป
Comments