𝟱 สิ่งที่มือกลองทุกคนควรมี นอกเหนือจากฝีมือ 😊 🥁

การเป็นมือกลองที่เก่งไม่ใช่เพียงแค่การมีฝีมือในการตีจังหวะหรือเทคนิคที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่จะช่วยให้การเล่นดนตรีกับวงดนตรีประสบความสำเร็จ รวมทั้งการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการฝึกซ้อมและการแสดงบนเวที บทความนี้จะพาทุกท่านไปสำรวจถึง 𝟱 สิ่งที่มือกลองทุกคนควรมีนอกเหนือจากฝีมือ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาและส่งเสริมให้การเล่นดนตรีมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จ

𝟭. #ความเข้าใจในจังหวะและการอ่านโน้ตดนตรี 

จังหวะ (𝗥𝗵𝘆𝘁𝗵𝗺) เป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในทุกๆ เพลง หากไม่มีจังหวะที่สอดคล้องกัน การเล่นดนตรีในวงจะไม่สามารถเข้ากันได้แม้ว่าทุกคนจะเล่นเครื่องดนตรีได้ดี การที่มือกลองเข้าใจจังหวะอย่างลึกซึ้งนั้นหมายถึงการสามารถจับจังหวะได้อย่างแม่นยำและสามารถเล่นได้ตามสเกลและเวลาที่เหมาะสม เช่น การตี "𝗯𝗮𝗰𝗸𝗯𝗲𝗮𝘁" ที่ทำให้เพลงมีชีวิตชีวาและสนุกสนาน หรือการจับจังหวะที่ซับซ้อนในเพลงแนวโปรเกรสซีฟ ร็อคหรือแจ๊ส

ในส่วนของการอ่านโน้ตดนตรีนั้น การที่มือกลองสามารถอ่านโน้ตในแบบมาตรฐาน (เช่น โน้ตดนตรีหรือแผนผังของการตีจังหวะ) จะช่วยให้สามารถเข้าใจเพลงในระดับลึก และสามารถแสดงออกได้ตามแนวทางของผู้ประพันธ์เพลง นอกจากนี้ยังสามารถทำให้มือกลองรับมือกับเพลงใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะจะมีการอ่านโน้ตได้ทันทีไม่ต้องใช้เวลาในการฝึกหลายๆ ครั้ง

𝟮. #ทัศนคติที่ดีและการทำงานร่วมกับผู้อื่น 

การที่มือกลองมีทัศนคติที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมากในวงดนตรี เพราะวงดนตรีที่มีบรรยากาศที่ดีจะทำให้การทำงานร่วมกันของสมาชิกในวงมีประสิทธิภาพมากขึ้น การทำงานร่วมกับคนอื่นต้องการความอดทน การยอมรับความคิดเห็นและการเปิดใจรับคำติชม ซึ่งเป็นสิ่งที่มือกลองต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง

การทำงานร่วมกับผู้อื่นในวงดนตรีไม่ได้หมายถึงแค่การฟังเสียงของเครื่องดนตรีตัวอื่นๆ แต่หมายถึงการปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเล่นของแต่ละคนด้วย เช่น ถ้าในบางช่วงมือกีตาร์เล่นโซโล่ เราจะต้องลดความเด่นของเสียงกลองลงบ้าง เพื่อให้โซโล่ของกีตาร์เด่นขึ้น หรือเมื่อมือเบสเล่นแนวที่หนักแน่น เราก็อาจจะต้องเล่นให้มีความหนักแน่นตามไปด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างความสมดุลให้กับเสียงทั้งหมดในวง

𝟯. #การควบคุมอารมณ์ 

การควบคุมอารมณ์ในกรณีของมือกลองเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการเล่นดนตรีต้องใช้สมาธิสูงและอารมณ์ที่ผันผวนอาจจะทำให้การเล่นเสียไปได้ เช่น ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนเวที (เช่น กลองหลุดออกจากมือ หรืออุปกรณ์เสียหาย) หากมือกลองไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ก็อาจจะทำให้การแสดงทั้งหมดเสียสมาธิหรือเกิดความเครียดไปทั่ววง

การรักษาความสงบในสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด การทำงานภายใต้ความกดดัน หรือการรับมือกับความเครียดจากการแสดงสด จะช่วยให้มือกลองสามารถกลับมามีสมาธิและเล่นได้ดีเหมือนเดิม รวมถึงการที่สามารถรักษาความสุขุมจะช่วยให้สมาชิกคนอื่นๆ ในวงรู้สึกมั่นใจและไม่ตกใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น

𝟰. #การเตรียมความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ 

มือกลองจำเป็นต้องรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรง เพราะการเล่นกลองต้องใช้กล้ามเนื้อและความทนทานทางกายภาพเป็นอย่างมาก หากร่างกายไม่พร้อม มือกลองอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้าหรือบาดเจ็บจากการเล่นที่ใช้พลังงานสูง โดยเฉพาะในงานแสดงสดที่ต้องเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน

นอกจากนี้การเตรียมจิตใจก็สำคัญไม่น้อย มือกลองควรฝึกฝนการทำสมาธิหรือการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้จิตใจสามารถมุ่งมั่นและมีสมาธิในการเล่นได้อย่างเต็มที่ การฝึกเตรียมจิตใจให้พร้อมช่วยให้มือกลองมีความอดทนและรับมือกับความเครียดได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความกดดันจากการแสดงสดหรือความเครียดจากการฝึกซ้อม

𝟱. #ความคิดสร้างสรรค์และการทดลอง 

มือกลองที่ดีไม่เพียงแต่จะสามารถเล่นตามจังหวะได้อย่างถูกต้อง แต่ยังสามารถแสดงออกผ่านการตีที่มีเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ เช่น การทดลองใช้เทคนิคใหม่ๆ ในการตี การใช้กลองหรืออุปกรณ์ต่างๆ ในลักษณะที่ไม่เคยลองมาก่อน หรือแม้กระทั่งการเล่นแบบอิมโพรไวส์ (𝗶𝗺𝗽𝗿𝗼𝘃𝗶𝘀𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻) ซึ่งเป็นการเล่นดนตรีแบบไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า

การมีความคิดสร้างสรรค์จะช่วยให้มือกลองสามารถเพิ่มความน่าสนใจและความหลากหลายให้กับเพลง และอาจจะช่วยให้วงดนตรีสร้างสรรค์เสียงใหม่ๆ ที่แตกต่างจากวงอื่น เช่น การเล่นกลองในรูปแบบที่มีเสียง "กังวาน" หรือการใช้เทคนิคการตีที่เพิ่มมิติให้กับเสียงดนตรี

โดยรวมแล้ว การที่มือกลองมีคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้เขาไม่เพียงแต่เป็นมือกลองที่มีทักษะในการตีจังหวะอย่างแม่นยำ แต่ยังสามารถร่วมงานกับวงดนตรีได้อย่างราบรื่น สร้างสรรค์งานดนตรีที่มีคุณภาพ และจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในการซ้อมและการแสดงสดได้อย่างมืออาชีพ