จากขี้อายเป็นกล้าแสดงออก จากไม่มีสมาธิเป็นมีระเบียบวินัย ดนตรีช่วยเปลี่ยนแปลงเด็กอย่างไร❓ 😊 🩷
- Dr.Kasem THipayametrakul
- Mar 26
- 1 min read

เด็กแต่ละคนมีพฤติกรรมและบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน บางคนอาจขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ขณะที่บางคนอาจมีปัญหาด้านสมาธิและขาดระเบียบวินัย ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม และการเรียนรู้ของพวกเขา
ดนตรีไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปะหรือความบันเทิง แต่ยังเป็น เครื่องมือในการฝึกฝนสมอง มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ระบุว่า การเรียนดนตรีช่วยพัฒนาทักษะด้านสมาธิ ความมั่นใจ และความมีระเบียบวินัย
เมื่อเด็กเล่นดนตรี พวกเขาต้องโฟกัส จดจ่อ และฝึกฝนซ้ำๆ สิ่งนี้ช่วยปรับปรุงการควบคุมตนเองและพัฒนาทักษะการคิดเชิงลึก นอกจากนี้ การได้แสดงดนตรีต่อหน้าผู้อื่นยังช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามความกลัวและสร้างความมั่นใจในตัวเอง
๐ ไม่กล้าพูดหรือแสดงความคิดเห็น
๐ รู้สึกประหม่าเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก
๐ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกสังคม
๐ ขาดความมั่นใจในตัวเอง
๐ เมื่อลูกสามารถเล่นเพลงหนึ่งได้สำเร็จ พวกเขาจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง
๐ ดนตรีช่วยให้พวกเขาค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง
๐ การเล่นดนตรีในงานโรงเรียน หรืองานแสดงต่างๆ ทำให้เด็กค่อยๆ ก้าวข้ามความกลัว
๐ เมื่อพวกเขาคุ้นเคยกับการถูกจับตามอง พวกเขาจะเริ่มกล้าพูดหรือแสดงออกมากขึ้น
๐ วงดนตรีช่วยให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ และเรียนรู้การทำงานเป็นทีม
๐ การเล่นดนตรีร่วมกันทำให้เด็กมีโอกาสแสดงความคิดเห็น และฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
เด็กที่เคยกลัวการพูดหน้าชั้นเรียน อาจเริ่มต้นจากการเล่นเปียโนในงานโรงเรียน และพัฒนาไปสู่การกล้าพูดและนำเสนอหน้าห้อง
เด็กที่เคยปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรม อาจเริ่มเล่นกีตาร์หรือร้องเพลงกับเพื่อน และกลายเป็นคนที่กล้าพูดคุยและมีเพื่อนมากขึ้น
๐ ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่ต้องทำได้นาน
๐ เบื่อง่าย และมักเปลี่ยนความสนใจไปเรื่อยๆ
๐ ขาดความอดทน ไม่ชอบการทำอะไรที่ต้องใช้เวลา
๐ ไม่มีระเบียบวินัยในการทำกิจวัตรประจำวัน
๐ เมื่อลูกต้องอ่านโน้ต จับจังหวะ และเล่นเครื่องดนตรีไปพร้อมๆ กัน พวกเขาจะต้องจดจ่อและมีสมาธิ
๐ สมองของเด็กจะได้รับการฝึกให้โฟกัสและคิดเป็นระบบ
การฝึกซ้อมช่วยปลูกฝังความมีระเบียบวินัย
๐ เด็กที่ต้องฝึกซ้อมดนตรีเป็นประจำจะเรียนรู้ว่า ความสำเร็จต้องมาจากความสม่ำเสมอ
๐ การซ้อมช่วยให้เด็กเข้าใจว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบต่อการฝึกฝนของตัวเอง
ดนตรีช่วยให้สมองทำงานอย่างมีระบบ
๐ การเรียนดนตรีช่วยพัฒนากระบวนการคิดเชิงตรรกะ (𝗟𝗼𝗴𝗶𝗰𝗮𝗹 𝗧𝗵𝗶𝗻𝗸𝗶𝗻𝗴)
๐ เด็กจะเริ่มวางแผน จัดลำดับความสำคัญ และแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น
เด็กที่เคยไม่มีสมาธิในการทำการบ้าน อาจเริ่มจดจ่อได้มากขึ้นหลังจากฝึกเปียโนทุกวัน
เด็กที่เคยขาดวินัย อาจเรียนรู้ว่าหากพวกเขาอยากเล่นเพลงโปรดได้ดี ต้องฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ
๐ ดนตรีต้องใช้ การฟัง, การอ่านโน้ต, การเคลื่อนไหวมือ และการประสานงานของร่างกาย สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นสมองและฝึกการคิดเป็นระบบ
๐ สมองของเด็กจะมีการพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมาธิ ความจำ และการควบคุมตนเอง
๐ การเล่นดนตรีช่วยให้เด็กเรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์ผ่านเสียงเพลง
๐ เด็กที่ขี้อายอาจใช้ดนตรีเป็นช่องทางในการแสดงความรู้สึกของตัวเอง
๐ เด็กที่เรียนดนตรีจะต้องดูแลเครื่องดนตรีของตัวเอง
๐ การเล่นดนตรีในวงหรือในกลุ่มทำให้เด็กเข้าใจความสำคัญของบทบาทของตนเอง
ให้ลูกได้เลือกเครื่องดนตรีที่ชอบ
อย่าบังคับลูกให้เล่นเครื่องดนตรีที่พ่อแม่ชอบ แต่ควรให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือก
กำหนดเวลาให้ลูกฝึกซ้อมเป็นประจำ
ฝึกให้ลูกมีวินัยในการซ้อม เช่น วันละ 𝟯𝟬 นาที
สร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการเล่นดนตรี
เปิดเพลงให้ลูกฟังและส่งเสริมให้พวกเขาแสดงออกผ่านดนตรี
ส่งเสริมให้ลูกแสดงดนตรีต่อหน้าผู้อื่น
ให้ลูกมีโอกาสแสดงดนตรีในงานโรงเรียน หรือเล่นให้ครอบครัวฟัง
ดังนั้น ดนตรีเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการพัฒนาเด็ก จากขี้อายเป็นกล้าแสดงออก และจากไม่มีสมาธิเป็นมีระเบียบวินัย การเล่นเครื่องดนตรีช่วยฝึกสมาธิ สร้างความมั่นใจ และปลูกฝังวินัยให้กับเด็ก
หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาวิธีช่วยพัฒนาลูก ลองให้พวกเขาเรียนดนตรีดู อาจเป็นก้าวแรกที่ช่วยเปลี่ยนแปลงพวกเขาไปตลอดชีวิต!
Comments