top of page
Search

จากขี้อายเป็นกล้าแสดงออก จากไม่มีสมาธิเป็นมีระเบียบวินัย ดนตรีช่วยเปลี่ยนแปลงเด็กอย่างไร❓ 😊 🩷


เด็กแต่ละคนมีพฤติกรรมและบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน บางคนอาจขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ขณะที่บางคนอาจมีปัญหาด้านสมาธิและขาดระเบียบวินัย ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม และการเรียนรู้ของพวกเขา





ดนตรีไม่ได้เป็นเพียงแค่ศิลปะหรือความบันเทิง แต่ยังเป็น เครื่องมือในการฝึกฝนสมอง มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่ระบุว่า การเรียนดนตรีช่วยพัฒนาทักษะด้านสมาธิ ความมั่นใจ และความมีระเบียบวินัย



เมื่อเด็กเล่นดนตรี พวกเขาต้องโฟกัส จดจ่อ และฝึกฝนซ้ำๆ สิ่งนี้ช่วยปรับปรุงการควบคุมตนเองและพัฒนาทักษะการคิดเชิงลึก นอกจากนี้ การได้แสดงดนตรีต่อหน้าผู้อื่นยังช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามความกลัวและสร้างความมั่นใจในตัวเอง









๐ ไม่กล้าพูดหรือแสดงความคิดเห็น



๐ รู้สึกประหม่าเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก



๐ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกสังคม



๐ ขาดความมั่นใจในตัวเอง







๐ เมื่อลูกสามารถเล่นเพลงหนึ่งได้สำเร็จ พวกเขาจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง



๐ ดนตรีช่วยให้พวกเขาค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง





๐ การเล่นดนตรีในงานโรงเรียน หรืองานแสดงต่างๆ ทำให้เด็กค่อยๆ ก้าวข้ามความกลัว



๐ เมื่อพวกเขาคุ้นเคยกับการถูกจับตามอง พวกเขาจะเริ่มกล้าพูดหรือแสดงออกมากขึ้น





๐ วงดนตรีช่วยให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ และเรียนรู้การทำงานเป็นทีม



๐ การเล่นดนตรีร่วมกันทำให้เด็กมีโอกาสแสดงความคิดเห็น และฟังความคิดเห็นของผู้อื่น





  เด็กที่เคยกลัวการพูดหน้าชั้นเรียน อาจเริ่มต้นจากการเล่นเปียโนในงานโรงเรียน และพัฒนาไปสู่การกล้าพูดและนำเสนอหน้าห้อง



  เด็กที่เคยปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรม อาจเริ่มเล่นกีตาร์หรือร้องเพลงกับเพื่อน และกลายเป็นคนที่กล้าพูดคุยและมีเพื่อนมากขึ้น









๐ ไม่สามารถจดจ่อกับงานที่ต้องทำได้นาน



๐ เบื่อง่าย และมักเปลี่ยนความสนใจไปเรื่อยๆ



๐ ขาดความอดทน ไม่ชอบการทำอะไรที่ต้องใช้เวลา



๐ ไม่มีระเบียบวินัยในการทำกิจวัตรประจำวัน







๐ เมื่อลูกต้องอ่านโน้ต จับจังหวะ และเล่นเครื่องดนตรีไปพร้อมๆ กัน พวกเขาจะต้องจดจ่อและมีสมาธิ



๐ สมองของเด็กจะได้รับการฝึกให้โฟกัสและคิดเป็นระบบ



   การฝึกซ้อมช่วยปลูกฝังความมีระเบียบวินัย



๐ เด็กที่ต้องฝึกซ้อมดนตรีเป็นประจำจะเรียนรู้ว่า ความสำเร็จต้องมาจากความสม่ำเสมอ



๐ การซ้อมช่วยให้เด็กเข้าใจว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบต่อการฝึกฝนของตัวเอง



  ดนตรีช่วยให้สมองทำงานอย่างมีระบบ



๐ การเรียนดนตรีช่วยพัฒนากระบวนการคิดเชิงตรรกะ (𝗟𝗼𝗴𝗶𝗰𝗮𝗹 𝗧𝗵𝗶𝗻𝗸𝗶𝗻𝗴)



๐ เด็กจะเริ่มวางแผน จัดลำดับความสำคัญ และแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น





  เด็กที่เคยไม่มีสมาธิในการทำการบ้าน อาจเริ่มจดจ่อได้มากขึ้นหลังจากฝึกเปียโนทุกวัน



  เด็กที่เคยขาดวินัย อาจเรียนรู้ว่าหากพวกเขาอยากเล่นเพลงโปรดได้ดี ต้องฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ







๐ ดนตรีต้องใช้ การฟัง, การอ่านโน้ต, การเคลื่อนไหวมือ และการประสานงานของร่างกาย สิ่งเหล่านี้ช่วยกระตุ้นสมองและฝึกการคิดเป็นระบบ



๐ สมองของเด็กจะมีการพัฒนาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสมาธิ ความจำ และการควบคุมตนเอง





๐ การเล่นดนตรีช่วยให้เด็กเรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์ผ่านเสียงเพลง



๐ เด็กที่ขี้อายอาจใช้ดนตรีเป็นช่องทางในการแสดงความรู้สึกของตัวเอง





๐ เด็กที่เรียนดนตรีจะต้องดูแลเครื่องดนตรีของตัวเอง



๐ การเล่นดนตรีในวงหรือในกลุ่มทำให้เด็กเข้าใจความสำคัญของบทบาทของตนเอง





  ให้ลูกได้เลือกเครื่องดนตรีที่ชอบ



  อย่าบังคับลูกให้เล่นเครื่องดนตรีที่พ่อแม่ชอบ แต่ควรให้พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือก



  กำหนดเวลาให้ลูกฝึกซ้อมเป็นประจำ



  ฝึกให้ลูกมีวินัยในการซ้อม เช่น วันละ 𝟯𝟬 นาที



  สร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการเล่นดนตรี



  เปิดเพลงให้ลูกฟังและส่งเสริมให้พวกเขาแสดงออกผ่านดนตรี



  ส่งเสริมให้ลูกแสดงดนตรีต่อหน้าผู้อื่น



  ให้ลูกมีโอกาสแสดงดนตรีในงานโรงเรียน หรือเล่นให้ครอบครัวฟัง



ดังนั้น ดนตรีเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการพัฒนาเด็ก จากขี้อายเป็นกล้าแสดงออก และจากไม่มีสมาธิเป็นมีระเบียบวินัย การเล่นเครื่องดนตรีช่วยฝึกสมาธิ สร้างความมั่นใจ และปลูกฝังวินัยให้กับเด็ก



หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาวิธีช่วยพัฒนาลูก ลองให้พวกเขาเรียนดนตรีดู อาจเป็นก้าวแรกที่ช่วยเปลี่ยนแปลงพวกเขาไปตลอดชีวิต!


 
 
 

Comments


bottom of page